ยาสมุนไพรจากธรรมชาติ แต่ไม่ได้ดีต่อร่างกายเสมอไป
ในปัจจุบันที่ประชาชนหันไปให้ความสนใจยาสมุนไพรเพิ่มขึ้นและมีการโฆษณาทั้งสื่อสังคมออนไลน์และสื่อกระแสหลักแบบเกินจริง ทำให้เกิดความไวรัลไปยังประชาชนที่รักสุขภาพและอยากใช้เพราะเป็นสมุนไพรเกิดการหลงเชื่อ อีกทั้งยังสามารถหาซื้อได้ง่าย ซึ่งยาสมุนไพรที่โฆษณากันหลากหลายที่เห็นกันอยู่เนี่ย บ้างก็ไม่ได้ผ่านการพิจารณาจากแพทย์ทางเลือก หรือแพทย์แผนปัจจุบัน บางส่วนก็ไม่ได้รับการรับรองจาก อย. ทำให้มีการลักลอบใส่ปรอท สเตียรอยด์ เพื่อให้ไปกระตุ้นให้เกิดผลเร็ว ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากได้รับผลกระทบทางสุขภาพอย่างหนัก ข้อมูลจากชมรมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทยได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ได้รับผลกระทบจากการใช้ยาสมุนไพรเดือนละไม่ต่ำกว่า 20 ราย ทั้งในส่วนของผู้ป่วยโรคไต และผู้ที่ไม่ได้เจ็บป่วยมาก่อน จึงทำเรื่องร้องเรียนส่งต่อไปยัง อย. และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) แล้ว
ทำไมยาสมุนไพรถึงเป็นที่นิยมและความเชื่อมากๆ
จากการสังเกตพฤติกรรมผู้ที่ซื้อยาสมุนไพรมาใช้ พบว่าซื้อมาเพราะคำว่า เขาเล่าว่าดี โดยได้รับแต่ข้อมูลด้านดีไม่รู้ในข้อมูลที่ไม่ส่งผลกระทบเลย การอ้างสรรพคุณรักษาเหมือนกับว่ารักษาได้ทุกอาการของโรค ซึ่งในทางความเป็นจริงนั้นเป็นไปไม่ได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าไปดูแล กำกับเรื่องการโฆษณาอย่างเข้มงวด
จากที่กล่าวมาทั้งหมด จึงมีคำแนะนำและขอเตือนผู้บริโภคด้วยความหวังดีว่า หากจะซื้อยาสมุนไพรมารับประทาน ควรมีการปรึกษาผู้ที่มีความร็และเชี่ยวชาญจริงๆ ที่มีการรองรับจากหน่วยงานราชการ เช่น เภสัชกร แพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก และแพทย์แผนปัจจุบัน ทั้งนี้ยาสมุนไพรที่เห็นอยู่ตามท้องตลาดเราไม่ได้ห้ามไม่ให้ใช้ แต่การใช้ต้องใช้อย่างถูกต้อง ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งไม่มียาไหนสามารถรักษาได้ทุกโรค แต่ละโรคมีความแตกต่างกัน ยิ่งเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคไตจะได้รับผลกระทบเร็วมาก ภายใน1-2 วันที่ใช้ก็สามารถตัวบวม เพราะของเสียคั่งในระบบ ฟอสฟอรัสสูง โพแทสเซียมสูง และทำให้หัวใจวายได้